ชีวิตรันทด อยู่ในบ้านผุพัง ซ้ำร้ายตาบอดขาขาด อยู่กับลูกวัย13 ชีวิตหดหู่กินข้าววันละมื้อ

เรียกได้เลยว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสงสารและน่าเห็นใจมากๆเลย ต้องบอกเลยว่าชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้จริงๆ นี้ก็เป็นอีกเรื่องราวเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 62 ที่ผ่านเฟซบุ๊ก Anucha Waranyusuthon ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวของสมาคมกู้ภัยสว่างนาวา จุดเมืองนครพนม สภาชุมชนบ้านนาโพธิ์ จังหวัดนครพนมและฅนเปลี่ยนคน ที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ที่บ้านกุรุคุ ม.3 ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม สุดรันทดใจ เมื่อพบสภาพสองแม่ลูก ใช้ชีวิตอยู่ในสภาพบ้านที่แสนหดหู่ ไร้สิ่งอำนวยความสะดวก แทบจะเรียกได้ว่าขาดปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต

ซ้ำร้าย!! คุณยายทองพูล อายุ 55 ปี ยังตาบอดสนิท ขาขวาขาด จากการตัดเพื่อรักษาแผลอาการป่วยของโรคเบาหวานในขณะที่เท้าซ้ายมีแผลเน่าเปื่อย มีน้ำหนองไหล ต้องใช้เศษมุ้งเก่าๆมาพันแผลไว้เพื่อป้องกันแมลงวัน บริเวณคอด้านซ้ายมีลักษณะเหมือนก้อนเนื้อขนาดใหญ่ ข้างกายของคุณยายพบลูกสาวชื่อเล่นน้องเหนือ อายุ 13 ปี นอนอยู่กับพื้นข้างๆแม่ มีเพียงเศษผ้าเก่าๆ หมอนขาดๆหนึ่งใบที่ใช้ก้อนอิฐบล็อกหนุนสูงเพื่อให้นอนได้ บริเวณโดยรอบทั้งในตัวบ้านและด้านนอกเต็มไปด้วยกองขยะจำนวนมาก มองสภาพโดยทั่วไปยิ่งกว่าบ้านร้าง แทบไม่เชื่อสายตาว่าจะมีคนพักอาศัยอยู่ถึงสองชีวิต ในวันที่ฝนตกต้องนอนตากฝนใช้ผ้าห่มคลุมหัว เพราะสภาพหลังคาแตกหักและรั่วซึมจนพื้นเปียกทั้งบ้าน

สอบถามจากเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน ที่คอยช่วยเหลือจุนเจือมากว่า 6 ปี นับตั้งแต่สามีของคุณยายทองพูลเสียชีวิตในช่วงที่น้องเหนือยังเป็นเด็กอายุเพียง 6-7 ขวบเท่านั้น ทั้งคู่ก็ทนอยู่กับสภาพชีวิตที่สุดแสนรันทด จนกระทั่งปี 2558 มีผู้ใจบุญและพระอาจารย์ได้สร้างบ้านให้พักอาศัย และมีน้องสะใภ้ฐานะยากจนไม่แพ้กันที่ต้องรับผิดชอบดูแลพ่อของคุณยายทองพูลที่ชราภาพตาบอดอายุ 87 ปี ในขณะที่ต้องรับผิดชอบหุงหาอาหารส่งให้คุณยายทองพูลที่

ตาบอดขาขาดและน้องเหนือเด็กกำพร้าที่ขาดโอกาสมาตั้งแต่วันลืมตาดูโลก ด้วยการจัดสรรเงินเบี้ยยังชีพผู้พิการ 800 บาท ของคุณยายทองพูล ให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิตในแต่ละเดือน ด้วยสภาพปัญหาและความรันทดของชีวิต ที่หญิงชราตาบอดต้องต่อสู้เพียงลำพังกับลูกสาวที่เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่จำเป็นต้องอยู่และจำทนต้องยอมรับกับชีวิตที่ไร้ความหวังและไร้จุดหมาย

เด็กหญิงที่เติบโตมาในครอบครัวที่ขาดความพร้อมในทุกๆด้าน และต้องพบเจอกับมรสุมชีวิตที่เลวร้าย ซึบซับและรับผลของสภาพแวดล้อมที่เคยชินอยู่กับกองขยะ จนกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน การตัดสินใจและการแยกแยะว่าสิ่งไหนควรสิ่งไหนไม่ควร น้องเหนือยังต้องการผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง จากการพูดคุยสนทนาทำให้รับรู้ได้ว่าน้องเป็นคนน่ารัก มีความสามารถพิเศษด้านการร้องเพลง บ่อยครั้งที่แม่นอนไม่หลับ ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกเหมือนครอบครัวอื่นเขา

แม่ก็จะขอให้น้องเหนือร้องเพลงกล่อมให้แม่นอน และต้องขาดเรียนบ่อยครั้งจนช่วงหลังๆไม่ได้ไปโรงเรียนเลย เพราะต้องอยู่กับแม่ เป็นเพื่อนคุยและรับผิดชอบดูแลแม่เท่าที่เด็กคนหนึ่งที่เติบโตมากับสภาพชีวิตที่แสนโหดร้ายจะสามารถดูแลได้สองชีวิตยังคงรอความหวังจากทุกภาคส่วนที่จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่เพียงเงินทองหรือสิ่งของอำนวยความสะดวกเท่านั้น วันนี้ไม่ใช่เวลาที่ต้องกล่าวโทษใคร หากแต่คือช่วงเวลาแห่งความหวังว่าจะมีใคร ยื่นมือมาช่วยทั้งสองชีวิตให้หลุดพ้นจากโชคชะตาที่เลวร้ายแล้วพบกับชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม

สมาคมกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม จุดเมืองนครพนม ได้เข้าพื้นที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยมอบรถเข็น ผ้าห่ม และเสื้อผ้าบางส่วน เนื่องจากน้องเหนือมีเสื้อผ้าเพียง 3 ชุด ส่วนคุณยายทองพูลมีเสื้อผ้าเพียง 1 ชุด รวมถึงได้พาคุณยายทองพูลและน้องเหนือ ไปเปิด

บัญชีรับความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและการใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้มีผู้ที่เกี่ยวข้องเปิดบัญชีร่วมกัน จำนวน 3 คน ชื่อบัญชี นายอนุชา วรัญญูสุธน และ นางสมพร เสียงเขียว และ น.ส.ทองพูล แสงเขียว ธนาคารกสิกรไทย สาขานครพนม เลขบัญชี 057-813-907-9 เพื่อเป็นทุนชีวิต ทุนการศึกษา ซ่อมแซมหลังคาบ้านเรือน ซ่อมแซมห้องน้ำและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตประจำวันให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 0633433925 อาจารย์พงศ์