นักท่องเที่ยวแห่ต่อคิวเปลญวนขึ้น “ภูกระดึง” นอนกินลม ชมวิว แบบไม่เหนื่อย

นักท่องเที่ยวใช้บริการนอนเปลญวนขึ้น “ภูกระดึง” นอนชมธรรมชาติสวยๆ แบบไม่เหนื่อย ราคาประมาณ 3,000-5,000 บาทต่อเที่ยว

วันที่ 23 พ.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย มีนักท่องเที่ยวกว่า 500 คน มารอเข้าคิวซื้อตั๋วผ่านเข้าอุทยาน เพื่อเดินเท้าขึ้นพิชิตภูกระดึง และตีตั๋วเพื่อจับจองลูกหาบขนสัมภาระกระเป๋า เสื้อผ้า ของใช้ขึ้นไปยังภูกระดึงระยะทางกว่า 5 กม.

ขณะที่นักท่องเที่ยวบางรายที่สุขภาพไม่ดี หรือเดินขึ้นไม่ไหวแต่มีใจรักในการเดินชมป่าธรรมชาติสองข้างทาง และขอเป็น 1 ในผู้พิชิตยอดภูกระดึง ได้ว่าจ้างลูกหาบใช้เปลญวนนอนแบกหามขึ้นไปยอดภูกระดึง นอนแบบสบายตัวไม่เหนื่อย

นายอดุลย์ อาคบุตร อายุ 44 ปี ลูกหาบที่แบกหามเปลญวนขึ้นไปยอดภูกระดึง เล่าว่า ตนเองเป็นลูกหาบมาตั้งแต่อายุ 17 ปี ปัจจุบันอายุ 44 ปี เป็นลูกหาบมาแล้ว 27 ปี ส่วนนักท่องเที่ยวที่มาว่าจ้างแบกเปลญวนขึ้นภูกระดึง มีค่าใช้จ่ายในการแบกหาม 3,000 บาทต่อเที่ยว โดยแบกเปลญวนไปถึงซำแค ระยะทางประมาณ 4 กม. จากนั้นเดินต่ออีก 1 กม. ไปถึงยอดแป นั่งรถเข็นไปถึงที่ทำการอุทยานฯ ถ้าเป็นราคาแบบหาม 4,000 บาท

ส่วนคนที่บาดเจ็บหรือเดินไม่ไหวจริงๆ แบกหามไปถึงหลังแป จากนั้นนั่งรถเข็นไปถึงที่ทำการอุทยานฯ เพียงแต่ไม่ต้องเดินอีก 1 กม. ราคาจึงแพงกว่า 1,000 บาท ส่วนน้ำหนักของนักท่องเที่ยวจำกัดอยู่ที่ 70 กก. ราคา 3,000 บาท แต่ถ้าน้ำหนักเกินกว่า 80 กิโลกรัมขึ้นไปราคาอยู่ที่ 4,000-5,000 บาท

สำหรับเปลญวนที่บริการให้นักท่องเที่ยว อุทยานมีบริการให้มานานหลายปีแล้ว ซึ่งแต่ก่อนจะเป็นเสลี่ยง ลักษณะเป็นเปลไม้ไผ่นอน เหมือนกับฮองเฮานั่ง ใช้สี่คนหามเวลานั่งจะโยกเยก ส่วนเปลญวนใช้แบกหาม 2 คน เดินทางได้สะดวกและสบายกว่า ปัจจุบันนี้ก็ยังมีอยู่ ค่าบริการอยู่ที่ 3,000 บาท ราคาเดียวกับเปลญวน แต่ลูกหาบไม่นิยมกันเพราะได้เงินน้อยต้องแบ่งกัน 4 คน

ส่วนเปลญวนแบ่งกันแค่ 2 คน เปลญวนคนจะนิยมมากกว่า ปลอดภัยกว่า นักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการเปลญวนก็มีเกือบทุกวัน แบกหามจากฐานข้างล่างขึ้นไปข้างบนระยะทางกว่า 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นขาลง นักท่องเที่ยวต้องการใช้บริการก็ราคาเดียวกับขาขึ้น ใช้เวลาในการลงมาชั่วโมงกว่า แต่ถ้าเจอคนบาดเจ็บก็เอาลงไปญวน ทั้งเดินทั้งวิ่งก็จะทำเวลาเร็วขึ้น

นายบุญหอง จันทาสี ประธานกลุ่มลูกหาบภูกระดึง เปิดเผยว่า ลูกหาบจะให้บริการตามลำดับคิว นักท่องเที่ยวจะต้องไปที่ต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน จากนั้นนำสัมภาระทั้งหมดมาชั่งน้ำหนัก เพื่อจัดของแบ่งน้ำหนักสัมภาระให้ลูกหาบแต่ละคน ช่วงหน้าหนาวถือเป็นช่วงที่ทำรายได้มากที่สุดเพราะนักท่องเที่ยวมากกว่าฤดูร้อน

อัตราค่าบริการปัจจุบันอยู่ที่ราคา กิโลกรัมละ 30 บาท ลูกหาบแต่ละคนสามารถแบกน้ำหนักได้เฉลี่ย 50 กิโลกรัมต่อเที่ยว นั่นหมายความว่าลูกหาบจะได้ค่าแบกเที่ยวละ 1,500 บาท แบกสัมภาระ 1 วัน เที่ยวไปและกลับ ลูกหาบจะได้ค่าแรงวันละ 3,000 บาท

ลูกหาบที่นี่มีกว่า 300 คน เป็นอาชีพที่ทำกันมาเป็นสิบๆ ปี แล้ว ไม่มีแต่เฉพาะลูกหาบผู้ชาย ลูกหาบผู้หญิงก็มี เป็นการสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว แต่ต้องขยัน เพราะแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวมาขึ้นภูกระดึง แต่ถ้าเป็นวันหยุด นักท่องเที่ยวก็จะมาก ซึ่งลูกหาบที่นี่ต้องรับแบกหามตามคิวที่จัดไว้