3 ดอ กไม้ ปลู กแ ล้ว ชีวิ ต มีแ ต่โช ค




กลับมากันอีกครั้งสำหรับเ รื่ อ งใกล้ตัวของเรา วันนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับดอกไม้ที่ไม่ว่าใครก็ชื่นชอบ

บวกกับเ รื่ อ งของคว ามเชื่ටคนไทยที่ว่าเชื่อมโยงกันเข้ามาระหว่างดอกไม้ และความร่ำຣวຢ

กลายเป็นดอกไม้มงคล ปลูกแล้วช่วยดูดทรัพย์ ดูดโชคลาภเข้ามาในบ้านของคุณ

แน่นอนว่านอกจากจะช่วยให้บ้านคุณมีสีสันแล้วละก็ ยังช่วยให้มีทรัพย์สินเงินทอง

ไหลเข้ามาไม่ข า ดสายอีกด้วย



อันดับที่ 3 ดอกดาวเรือง

ดูดทรัพย์เข้าบ้าน

ด้วยชื่อที่เป็นมงคลและสีเหลืองดั่งทอง ทำให้ดาวเรืองเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกไว้ในบ้านหรือริมรั้ว

เพื่อเสริมชะตาชีวิตให้รุ่งเรือง เจริญก้าวหน้า โดยสีเหลืองนั้นเป็นมงคลหนุนให้มีเงินทองเต็มบ้าน

และในประเทศอินเดียยังนิยมใช้ดาวเรืองในการบูชา บวงสรวงเทพเจ้าต่าง อีกด้วย “ดาวเรือง”

Loading...

นอกจากจะเป็นไม้มงคลที่คนไทยนิยมปลูกแล้วยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทยอีกด้วยฉะนั้น

ปลูกให้ครบ ตามคำแนะนำ รับรองว่า ทรัพย์มาจนตั้งตัวไม่ทันเลย



อันดับที่ 2 ดอกมะลิ

ถ้าพูดถึงมะลิ ภาพในใจของทุกคนคงหนีไม่พ้นภาพของดอกไม้สีขาว กลิ่นหอมอ่อน

ใช้เป็นสัญลักษณ์ของวันแม่ ทำให้มะลิเป็นไม้ดอกที่คนทุกเ พ ศ ทุกวัยรู้จักเป็นอย่างดี

นอกจากเสน่ห์ที่กล่าวมาแล้ว มะลิยังเป็นไม้ที่ให้มงคลในทางความรัก ความเสน่หาอีกด้วย

โดยมีคว ามเชื่ටกันว่าบ้านที่ปลูกมะลิจะมีแต่ความสงบสุขและเป็นที่ประ

ทับใจของคนรอบข้าง รวมทั้งยังเกื้อหนุนให้เกิດความกตัญญูของลูกที่มีต่อแม่อีกด้วย

เคล็ดของการปลูกมะลิในบ้านนั้นควรให้คุณแม่หรือผู้อาวุโสที่สุดในบ้านที่เป็นเ พ ศ หญิงเป็นคนลงมือปลูก

ทิศมงคลคือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และควรปลูกในวันพุธ



อันดับที่ 3 วาสนา

ตามคว ามเชื่ටของคนไทยแต่โบราณ การปลูกต้นวาสนานั้นจะทำให้มีวาสนาดี

หากผู้ที่ปลูกดูแลอย่างดีจนต้นวาสนาสามารถออกดอกได้ก็จะนำโชคลาภมาให้

ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรือการได้เลื่อนยศเลื่อนขั้น เพิ่มบุญบารมีให้เจ้าของยิ่งขึ้นการปลูกต้นวาสนาควรปลูกในวันอังคาร

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยที่ผู้ปลูกควรเป็นผู้หญิง

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะสำหรับเ รื่ อ งราวคว ามเชื่ටเกี่ยวกับดอกไม้ดูดทรัพย์ที่เราได้หยิบมาฝากเพื่อนในวันนี้

เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะมีบ้านไหนที่ปลูกครบทั้ง 3ต้นหรือเปล่าเอ่ย ส่วนบ้านไหนยังไม่มีหรือมีไม่ครบก็ลอง

ไปซื้อมาปลูกกันได้เลยจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยนะคะ

Loading...

ขอบคุณแหล่ งที่มา แก๊งค์บิวตี้

0 comments:

Post a Comment