หากคุณเป็นคน “ซื่ อ สั ต ย์” กาลเวลาจะนำพา “สิ่ ง ดี ๆ” มาให้คุณ


“ความ ซื่ อ สั ต ย์ คือ ความเป็นอมตะนิรันดร์”
.
มีเพื่อนรักอยู่สองคน
.
คนหนึ่งชื่อ “ฉ ล า ด” อีกคนชื่อ “ซื่ อ สั ต ย์”
.
ทั้งสองคนนั่งเรือออกไปท่องทะเลด้วยกัน
.
โชคไม่ดี เจอพายุฝนลูกใหญ่กระหน่ำกลางทะเลจนทำให้เรือล่ม
.
บนเรือชูชีพมีที่นั่งเพียงคนเดียว
.
คนชื่อ “ฉ ล า ด” เห็นท่าไม่ดี
.
รีบถีบ “ซื่ อ สั ต ย์” ตกทะเลไป
.
แล้วตนเองก็ขี้นเรือชูชีพหนีไป
.
“ซื่ อ สั ต ย์”สำลักน้ำเกือบ ต า ย
.
โชคยังดีที่ลอยคอมาถึงเกาะเล็กๆเกาะหนึ่ง
.
พอเอาชีวิตรอดมาได้ ก็ตั้งตาคอยว่าเมื่อไหร่จะมีเรือผ่านมาแถวนั้น
.
ไม่นานเกินรอ ก็ได้ยินเสียงเพลงเสียงดนตรีลอยมาแต่ไกล
.
เป็นเสียงมาจากเรือลำหนึ่งที่กำลังวิ่งผ่านมาทางเกาะที่ตนอยู่

.
เมื่อเรือเข้าใกล้ สังเกตุเห็นบนเรือปักธงโบกสะบัดว่า “ค ว า ม สุ ข”
.
“ซื่อสัตย์”รีบตะโกนขอความช่วยเหลือ
.
“ความสุขครับ ได้โปรดช่วยชีวิตเราด้วย เราชื่อ “ซื่อสัตย์””
.
พอ “ความสุข” ได้ยิน ก็ตะโกนตอบไปว่า
.
“ช่วยไม่ได้หรอก ถ้าหากเรามัวแต่เป็นคน “ซื่อสัตย์”
.
ขีวิตเราคงหา “ความสุขไม่ได้เลย
.
ไม่เห็นเหรอว่า มีคนมากมายที่พูดความจริงเพราะความ “ซื่อส้ตย์”
.
และความจริงเหล่านั้นจะย้อนกลับมาทำ ร้ า ย คนพูด”
.
พอพูดเสร็จ “ความสุข” ก็หันหัวเรือห่างออกไป
.
ในเวลาต่อมา เรือ “ตำแหน่ง” ก็แล่นใกล้เข้ามา
.
“ซื่อสัตย์” รีบตะโกนขอความช่วยเหลือ
.
พอ “ตำแหน่ง” รู้ว่าคนขอความช่วยเหลือคือ “ซื่อสัตย์”
.
จึงรีบปฏิเสธไปว่า “”ตำแหน่ง”ของเราต้องห้ำหั่นกับผู้คนมากมายกว่าจะได้มา
.
และเราจะก้าวต่อไปไม่หยุดยั้งไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ตาม
.
หากเราต้องดำรง “ตำแหน่ง” ด้วยความ “ซื่อสัตย์”
.
สงสัยเราจะไม่ทัน เ ล่ ห์ เ ห ลี่ ย ม คนอื่นและคงไปไม่ได้ไกล”
.
“ซื่อสัตย์” มองดูเรือ “ตำแหน่ง” ค่อยๆห่างออกไป

.
ก็ต้องจำใจรอเรือลำต่อไปด้วยความหวัง
.
ไม่นานเกินรอ ก็เห็นเรือ “แ ข่ ง ขั น” แล่นมาอีกลำ
.
จึงตะโกนแต่ไกลว่า “”แ ข่ ง ขั น”ครับ เราคือ “ซื่อสัตย์” ช่วยมารับเราหน่อย”
.
พอ “แ ข่ ง ขั น” รู้ว่าเป็น “ซื่อสัตย์” เลยตะโกนตอบไปแบบไม่ต้องคิดมาก
.
“อย่าทำให้เราลำบากใจเลย ทุกวันนี้การ”แ ข่ ง ขั น”ในสังคมสูงมาก
.
หากเรายังต้องเป็นคน “ซื่อสัตย์” เราคง “แ ข่ ง ขั น” สู้คนอื่นไม่ได้แน่นอน”
.
พอพูดจบ “แ ข่ ง ขั น” ก็จากไปอย่างไม่ใยดี



ทันใดนั้น เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าก็ดังก้องทั่วท้องทะเล
.
พายุลูกใหญ่โหมกระหน่ำอย่างแรง
.
“ซื่อสัตย์” ที่กำลังอยู่ในอาการหมดหวัง สับสนกับจุดยืนของชีวิตตน
.
ก็ได้ยินเสียงเรียกอย่างปราณีว่า
.
“ลูกเอ๋ย มาขึ้นเรือเราเถอะ”
.
พอ “ซื่อสัตย์” มองหาไปยังต้นเสียง จึงได้รู้ว่าเป็นผู้เฒ่าแห่ง “กาลเวลา”
.

เมื่อขึ้นเรือเสร็จ เขาจึงถาม “กาลเวลา” ว่า
.
“ทำไมท่านจึงช่วยเรา”
.
ท่านผู้เฒ่าตอบด้วยรอยยิ้มว่า
.
“มีแต่ “กาลเวลา” เท่านั้น ที่จะพิสูจน์ให้รู้ว่า
.
ความ “ซื่อสัตย์” มีความสำคัญแค่ไหน”
.
บนเส้นทางที่กำลังแล่นเรือกลับบ้าน
.
“กาลเวลา” ชี้ให้มองดู “ฉลาด” “ความสุข” “ตำแหน่ง” และ “แข่งขัน”
.
ทั้งหมดล้วนตะเกียกตะกายอยู่กลางทะเลที่กำลังจะจมหายไปในน้ำ
.
ท่านผู้เฒ่าถอนหายใจพร้อมกล่าวว่า
.
“หากไร้ซึ่งความ “ซื่อสัตย์”…….
.
“ฉ ล า ด” ก็จะทำ ร้ า ย ตัวเองในที่สุด
.
“ค ว า ม สุ ข” จะอยู่ได้ไม่จีรัง
.
“ตำแหน่ง” อยู่ท่ามกลางเสียง ส า ป แ ช่ ง
.
“แ ข่ ง ขั น” ก็จะเป็นได้แค่ผู้ พ่ า ย แ พ้
.

สุดท้ายแล้ว มีแต่ความ “ซื่อสัตย์” เท่านั้น
.
ที่จะเป็นความอมตะนิรันดร์
.
www.facebook.com/Flintlibrary “ขจรศักดิ์” แปลและเรียบเรียง

จาก 正能量家族

0 comments:

Post a Comment