นายกประยุทธ์ ลั่นถ้าคุมคนเดินทางไม่ได้ จะสั่งหยุดรถโดยสารทั้งหมด ส่วนใครได้รับเงิน 5,000 ไปแล้ว พบทีหลังเป็นข้อมูลเท็จ จะถูกเรียกคืน




นายกประยุทธ์ ลั่นถ้าคุมคนเดินทางไม่ได้ จะสั่งหยุดรถโดยสารทั้งหมด ส่วนใครได้รับเงิน 5,000 ไปแล้ว พบทีหลังเป็นข้อมูลเท็จ จะถูกเรียกคืน


วันที่ 31 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การประเมินผลการประกาศใช้ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน มีการทบทวนทุกสัปดาห์ หลังประกาศใช้ 1 เดือนแรกถ้าจำเป็นจะต่อไปเป็นเดือนที่ 2-3 และมาตรการจะเข้มข้นตามลำดับ โดยยังไม่มีแนวโน้มในการยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน เว้นแต่ให้หน่วยงานไปพิจารณาว่าสิ่งใดที่ทำแล้วได้ผลดีขึ้นก็อาจจะมีการผ่อนผันได้ สิ่งไหนไม่ดีขึ้นจะเข้มงวดมากขึ้น

สำหรับการเดินทางออกนอกเขตจังหวัด หลายคนเป็นห่วง อยากให้มีการหยุดหรือปิด แต่ต้องดูผลกระทบหลายอย่าง โดยเฉพาะการจับจ่ายใช้สอย ทุกคนต้องระมัดระวังตนเอง โดยรัฐบาลเน้นการให้บริการรถจักรยานยนต์ส่งอาหาร มีการตรวจสอบเชื้อจากผู้ให้บริการเหล่านี้ ขออย่าไปแออัดตามร้านค้าที่ไปรอของ เพราะเชื้ออาจจะแพร่ไปยังผู้บริโภค ทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเองและผู้อื่นด้วยเสมอ เรื่องการเดินทางให้กระทรวงคมนาคมไปพิจารณาว่า หากยังมีการเคลื่อนย้ายเป็นจำนวนมากแบบปัจจุบัน ที่หลายคนใช้โดยไม่จำเป็น จะลดจำนวนการให้บริการขนส่งลงหรือไม่กี่เที่ยวต่อวัน

Loading...

ถ้าให้ทำกันเองแล้วไม่เรียบร้อยไม่สามารถควบคุมจำนวนเองได้ ต่อไปต้องเจอสถานการณ์ในการลดให้บริการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า รถไฟ รถโดยสาร รถเมล์ จำเป็นต้องลดเที่ยวในการให้บริการจนเรียบร้อย ถ้าไม่เรียบร้อยอีกก็ต้องหยุดทั้งหมด เพื่อลดการเคลื่อนย้ายไปมาแพร่เชื้อขณะที่เรื่องของการเดินทางเข้าประเทศ กรณีคนต่างชาติให้เฉพาะคนที่มีใบอนุญาตทำงาน หรือเวิร์กเพอมิต ที่ทำงานในไทยอยู่แล้ว ส่วนคนที่มาจากประเทศเสี่ยงต้องควบคุม 14 วันทุกคน ทั้งกักตัวโดยรัฐและให้กักตัวเอง โดยถูกติดตามใกล้ชิด

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเรื่องการลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด เดือนละ 5 พันบาท 3 เดือนว่า กรณีให้ข้อมูลเป็นเท็จและได้รับเงินไป หากถูกตรวจสอบได้ภายหลังจากรับเงินไปแล้ว จะถูกเรียกเงินคืน ส่วนผู้ที่ยังไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ส่วนนี้ จะมีการออกมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ดูแลเยียวยาเพิ่มเติมเท่าที่จะทำได้เพื่อลดผลกระทบของประชาชนให้มากที่สุด เพราะตนเข้าใจว่าผลกระทบนี้จะเกิดขึ้นนานพอสมควร ทั้งนี้จะมีมาตรการระยะ 3-4 ออกมา

สำหรับงบประมาณที่ใช้ช่วยเหลือจะหามาจาก ส่วนของงบประมาณปี 2563 และ การออก พ.ร.ก. กู้เงินเพื่อให้มีเม็ดเงินเพียงพอ พยายามดูแลเต็มที่ทุกมาตรการ และให้เป็นไปตามกฎหมาย สำหรับตัวเลขผุู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการตรวจสอบคัดกรองมากขึ้น ประชาชนกลุ่มเสี่ยงมาพบแพทย์มากขึ้นทำให้ตรวจพบมากขึ้น แต่ใครไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงและดูแลตัวเองดีแล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปตรวจ

ขอบคุณที่มา : Workpoint News

0 comments:

Post a Comment