บางคนชอบ “การเป็นลูกจ้าง” เขาไม่ได้คิดผิด แค่คิดไม่เหมือนคุณ



บางคนชอบ “การเป็นลูกจ้าง” เขาไม่ได้คิดผิด แค่คิดไม่เหมือนคุณ

คนเราทุกคนเติบโตขึ้นมาก็ต้องทำงาน บางคนก็ทำธุรกิจ ทำกิจการส่วนตัว บางคนก็เป็นลูกจ้างกินเงินเดือนคนอื่นเขา ก็แล้วแต่เส้นทางชีวิตของแต่ละคน ในแต่ละช่วงชีวิตของคนเรานั่นเอง


เชื่อว่าความคิดของคนส่วนใหญ่ หากเลือกได้ก็อยากทำธุรกิจของตนเอง คงไม่มีใครอยากเป็นลูกจ้างคนอื่นเขา แต่ในความเป็นจริง ลูกจ้างย่อมมีจำนวนมากกว่านายจ้าง เป็นธรรมดาของสังคม

อย่างไรก็ตาม ยังมีคนทำงานอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่เคยคิดจะออกมาทำกิจการของตนเอง เขาต้องการที่จะเป็นลูกจ้างไปตลอดชีวิต ส่วนมากมักจะมาจากเหตุผลว่า ไม่มีเงินทุน ไม่ได้มีต้นทุนชีวิตเยอะ ฐานะที่บ้านไม่ได้ร่ำรวย ไม่มีมรดกอะไร

ทำเองต้องรับผิดชอบมากกว่า เสี่ยงมากกว่า รายได้ไม่แน่นอน เป็นลูกจ้างสบายกว่า รู้สึกมั่นคงกว่า กินเงินเดือนไปตลอด ได้เงินทุกสิ้นเดือน ทำงานผิดพลาด เสียหาย ก็ยังได้เงินเดือน ทำไมต้องดิ้นรนขวนขวายให้มากมายนัก


หากพลาดพลั้งขึ้นมา ก็ต้องเป็นหนี้เป็นสิน แล้วจะเอาเงินที่ไหนกิน เอาเงินที่ไหนใช้

เรื่องนี้ไม่มีผิดถูกเหมือนบางเรื่องบางประเด็น เหตุเพราะในอุตสาหกรรมก็ต้องมีการจ้างงาน ไม่เป็นนายจ้าง ก็ต้องเป็นลูกจ้าง หากทุกคนอยากทำธุรกิจส่วนตัว อยากประกอบกิจการ อยากเป็นนายจ้างกันหมด ก็คงไม่มีลูกจ้าง ไม่มีใครทำงานให้กับใครเลย

และแม้คนที่คิดอยากทำธุรกิจของตนเอง แต่วันนี้ยังทำงานเป็นลูกจ้างคนอื่นเขา ก็ยังมีให้เห็นอีกมากมายนักในสังคม อาจมาจากความไม่กล้า กลัวล้มเหลว ความไม่พร้อมทางด้านเงินลงทุนหรืออื่น ๆ หรือแม้แต่ไม่รู้จะทำธุรกิจกิจการอะไรดี


กลัวทำแล้วจะเจ๊ง นอกจากรวยไม่ได้แล้ว ยังจนถาวรอีก จะยิ่งยุ่งเหยิงกันไปใหญ่

ดังนั้น หากเรามีความคิดที่ว่า “อยากเป็นลูกจ้างไปตลอดชีวิต” ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างใด ตรงกันข้าม กลับเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ แสดงว่าเรามีเป้าหมาย มีจุดยืนที่ชัดเจน เพราะหากเป้าหมายไม่ชัดเจน เราอาจตกเป็นเหยื่อของคนอื่น

ยิ่งยุคนี้ สมัยนี้ มีธุรกิจเครือข่ายมากมาย ชักจูง ชี้นำคนอื่น โดยอาศัยจุดอ่อนนี้ เล่นกับความต้องการของคนที่อยากรวย อยากทำธุรกิจส่วนตัว ให้มาทำธุรกิจกับเขา ซึ่งธุรกิจที่ทำดี โปร่งใส เชื่อถือได้ก็มี แต่ธุรกิจที่เข้าข่ายหลอกลวงเป็นลูกโซ่ ต้องเสียเงินก่อน ลงทุนก่อน จึงจะทำได้ก็เยอะ

สุดท้ายคนที่ทำ ได้เงินก้อนโต หายเข้ากลีบเมฆ ก็มีให้เห็นอยู่ไม่น้อย ส่วนคนที่เชื่อง่าย ไว้ใจง่ายเกินไป ก็ต้องตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกลวงให้ลงทุน ต้องจ่ายเงิน ต้องเสียเงินไปจำนวนมาก

ทางออกในเรื่องนี้ก็คือ วางแผนชีวิตและตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน

อยากจะทำธุรกิจกิจการส่วนตัว ก็ทำ จะทำเมื่อใด ใช้เงินลงทุนเท่าใด ก็ต้องคิด แต่ที่สำคัญ วันนี้ทำงานให้เขา เป็นลูกจ้างเขา ก็ต้องทำให้เต็มที่ เต็มกำลัง ไม่ผัดผ่อน เพราะหากเราเป็นลูกจ้างที่ดียังไม่ได้ เราจะเป็นนายจ้างที่ประสบความสำเร็จได้อย่างไร


แต่ถ้าเราไม่อยากเสี่ยง ไม่อยากลองผิดลองถูก อยากเป็นลูกจ้างไปตลอดชีวิต ก็ไม่แปลก วางแผนเติบโตก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ มีเงินเดือนมากขึ้น มีเงินเก็บมากขึ้น ชีวิตของเราก็มั่นคงปลอดภัยได้เช่นกัน

สุดท้ายนี้ อยากย้ำไว้สักนิดหนึ่งว่า แม้เราต้องวางแผนหรือวางเป้าหมายชีวิต ซึ่งโดยหลักก็ไม่ควรเปลี่ยนแผน หรือเปลี่ยนเป้าหมายชีวิตกันบ่อยนัก เพราะจะทำให้เราไม่แน่นอนสักอย่าง แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้เลย

แผนของเรา เป้าหมายของเรา มีเพียงเราเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงได้ เมื่อถึงจุดที่เหมาะสม เราจะมีคำตอบเอง คิดให้รอบคอบ ตัดสินใจให้แน่วแน่ ว่าจะเลือกแผนใด เป้าหมายใดให้ตนเอง

เมื่อตัดสินใจเลือกแล้ว ก็ต้องเดินหน้า ต้องมุ่งมั่นตั้งใจทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ เพราะเหตุว่า เราอยากเป็นอะไร เราอยากได้อะไรในชีวิต เราเท่านั้นที่รู้คำตอบ เราเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด

ถ้ายังไม่มีคำตอบ หรือยังไม่รู้ ก็ค้นหาให้รู้ ค้นให้พบคำตอบ…กันเถิดครับ

ที่มา โค้ชวันพุธ กฤตวัฏ


0 comments:

Post a Comment