“ถ้ำนาคาธิบดี” ศรีสะเกษ วิจิตรงดงาม สวรรค์แดนอีสานใต้ อยากไปกราบไหว้สักครั้งในชีวิต



Loading...


เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาที่งดงาม อลังการสุดๆ สำหรับ “ถ้ำวังนาคาธิบดี” หนึ่งใน ภพชาติของพระพุทธเจ้า ณ วัดทุ่งสิม ตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ น้อมถวายเป็นพระราชกุศล รัชกาลที่ 10 ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนา แห่งเดียวในอีสานใต้



เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา บรรยากาศที่ “วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม” หรือ วัดทุ่งสิม ตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีนักท่องเที่ยวเชิงพระพุทธศาสนา พี่น้องประชาชน ญาติโยม ที่ทราบข่าวในการเริ่มเปิดให้เข้าชมถ้ำวังบาดาลให้ประชาชนได้เข้าไปชม ไปไหว้พระพุทธรูปหยกขาว ไปชมรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่ 2 ตน ภายในถ้ำ ที่สวยงาม




Loading...
ด้านข้างพระพุทธรูปขาวที่งดงาม น่าเกรงคาม พร้อมกับเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สรงน้ำพระพุทธรูปโบราณ ด้วยความโดดเด่น และความน่าสนใจของวัด เป็นแหล่งฝึกอบรมปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน สถาปัตยกรรมของวัดที่มีความสวยงาม และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่ร่มรื่น ล้อมรอบไปด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่นานาชนิด และสัตว์ต่างๆ ได้เข้ามาอาศัยยังเขตอภัยทาน เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ ทำบุญ พักผ่อนหย่อนใจ ให้อาหารปลา และวัดป่าศรีมงคลรัตนาราม




ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาและทางธรรมชาติ ที่สำคัญของเทศบาลตำบลโคกจาน โดยมี “พระครูวิจิตรวินัยคุณ” เจ้าอาวาสวัดป่าศรีมงคลรัตนาราม พร้อมด้วยคณะกรรมการวัด ประชาชน ญาติโยม ร่วมจิตศรัทธาในการก่อสร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง “พระครูวิจิตรวินัยคุณ” เจ้าอาวาสวัดป่าศรีมงคลรัตนาราม เล่าให้รับฟังว่า



สถานที่นี่คือวัดทุ่งสิมเดิม ขณะนี้กำลังมีการก่อสร้างให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงพระพุทธศาสนา สร้างเป็นพระมหาเจดีย์ เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล ในรัชกาลที่10 โดยที่ผ่านมาได้รับพระเมตตาจาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้เสด็จมาวางศิลาฤกษ์ในการเริ่มก่อสร้าง พระมหาเจดีย์ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556



Loading...

โดยชั้นแรกจะก่อสร้างตบแต่งเป็นถ้ำ เป็นวังบาดาล ชั้นที่ 2 จะเป็นสวรรค์ต่อมนุษย์ เป็นการสร้างแสดงการทำคุณงามความดีของมนุษย์ จนได้มาเกิดเป็นเทวดาต่างๆ ชั้นที่ 3 เป็นการเล่าเรื่องพระมหากษัตริย์ ที่ทรงบำรุงพระพุทธศาสนาจากอดีต จนปัจจุบันที่มีคุณต่อประเทศไทย ส่วนชั้นที่ 4 – 5 จะเป็นองค์มหาเจดีย์ เหมือนที่ตั้งอยู่บนเขาพระสุเมธ โดยการตบแต่งจะดำเนินงานไปเรื่อยๆ ตามกำลังศรัทธา



ซึ่งในปี 16 มีนาคม พ.ศ.2559 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมเสาวีฯ ได้เสด็จมาเททองหล่อพระพุทธรูปปางปริณิพานไว้แล้ว และที่กำลังอยู่และเปิดให้ประชาชน ญาติโยมได้เข้ามกราบไหว้ขอพร เยี่ยมชมได้แล้วบางสวนตอนนี้ก็คือ ชั้นที่ 1 ในส่วนนี้ก็คือ เป็นการจำลองให้เป็นถ้ำ วังบาดาล



และจะรวบรวมรูปหล่อนาคาธิบดี ขนาดใหญ่ ทั้ง 4 ตระกูล 9 นาคาธิบดี และพญานาคราช ที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เคยเสวยพระชาติ เป็นพญานาค พร้อมรายละเอียดต่างๆ ที่ทุกคนจะสามารรถเข้ามาศึกษา เรียนรู้ได้ โดยจะรวบรวมไว้ภายในถ้ำวังบาดาล ในชั้นที่ 1 แห่งนี้


Loading...


อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่มีการก่อสร้างจนแล้วเสร็จในช่วงแรก ในราวเดือนตุลาคม 2562 นี้ เชื่อว่าจะมีผู้คนที่ได้เดินทางมากราบไหว้ขอพรพระพุทธรูป มาเยี่ยมชมประวัติของพญานาคาธิบดี มาศึกษาเรื่องราวของชาติภูมิครั้งหนึ่งของพระพุทธเจ้า ที่เสวยชาติเป็นพญานาคซึ่งด้านเพดานยังได้ปั่นแต่งให้มีหินงอก หินหยอย ประดับตบแต่งอย่างสวยงาม กับความร่มรื่นของต้นไม้นานาชนิดภายในวัด ความเย็นสบายเหมาะแก่การนั่งสมาธิ สวดมนต์ภายในถ้ำวังบาดาลแห่งนี้ ซึ่งขณะนี้ได้เปิดให้ประชาชนได้เข้ากราบไหว้ เข้าชมได้แล้วในบางส่วนแล้ว



Loading...

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ TripTH ทริปไทยแลนด์, Timenews2017

0 comments:

Post a Comment