ชิมช็อปใช้ เฟส 3 กระตุ้นท่องเที่ยวและเศรษฐกิจแจกคนละ 3000



ชิมช็อปใช้ เฟส 3 กระตุ้นท่องเที่ยวและเศรษฐกิจแจกคนละ 3000

จากสถานการณ์ c๐vid ทำให้เศรษฐกิจในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่หรือขนาดกลาง รวมไปถึงระดับรากหญ้า มีผลกระท บกันทุกหย่อมหญ้า

โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ที่เป็นรายได้หลักๆของประเทศที่กระทบอย่างมากเนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ บางแห่งต้องปิดตัวลงเพราะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว



ล่าสุด นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเตรียมพร้อมรับมือ มาตรการผ่อนปรนระยะ 3 c๐vid จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2562

แต่ยังต้องดูว่าการผ่อนปรนดังกล่าวจะดำเนินการในลักษณะใด เนื่องจากขณะนี้ยังมีเรื่องพ.ร.ก.ฉุกเฉินกำหนดถึงสิ้นเดือนมิถุนายน และต้องดูว่าผ่อนปรนให้เดินทางข้ามจังหวัดอย่างไร เพราะใน 2 เรื่องนี้เป็นอุปสรรคสำหรับในการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) มีการหารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในกรณีที่รัฐบาลจะคลายล็อกดาวน์ให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการเคยเสนอให้แจกคูปองท่องเที่ยวกับผู้สูงอายุ แต่แนวทางดังกล่าวอาจไม่เหมาะสมแล้ว เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุมีความเสี่ ย งต่อ c๐vid สูงกว่ากลุ่มอื่น



นายชัยรัตน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้รูปแบบนำมาทดแทนและทำได้ทันทีคือ แจกคูปองท่องเที่ยวคนละ 2-3 พันบาทให้กับคนไทย10 ล้านคน คิดเป็นเงินประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาทตรงนี้สามารถขอใช้เงินจากงบฟื้นฟู 4 แสนล้านบาทในพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทได้ เบื้องต้น สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)สนับสนุนแนวคิดแจกคูปองแล้ว เพียงพอให้กระทรวงท่องเที่ยวฯ ทำข้อเสนอเข้าไปเท่านั้น

นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยวผ่านมาตรการชิมช้อปใช้ แจกเงินให้ประชาชนกว่า 10 ล้านคน ไปเที่ยวไปซื้อของ ไปทานอาหาร ไปพักในโรงแรม แต่สัดส่วนของการใช้จ่ายส่วนใหญ่นำไปซื้อของ การนำไปพักโรงแรมน้อยมาก ดังนั้นหากนำเรื่องชิมช้อปใช้มาใช้อีกคนไม่เหมาะสมเท่ากับการแจกคูปอง ซึ่งตรงจุดประสงค์มากกว่า ซึ่งในการใชจ่ายของคูปองนอกจากนำไปใช้จ่ายที่พักแล้ว สทท.อยากให้สามารถนำไปใช้ในกลุ่มธุรกิจเที่ยวข้อง เช่น ร้านอาหาร บริษัททัวร์ ร้านขายของที่ระลึก

นอกจากนี้เอกชนเสนอให้ภาครัฐออกไปกระตุ้นท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะขณะนี้หลายๆ ประเทศยังหวังพึ่งพาการท่องเที่ยว ดังนั้นหากสถานการณ์ c๐vid เริ่มดีขึ้น จะทำให้หลายประเทศแข่งขันทำแคมเปญดึงดูดภาคการท่องเที่ยวอย่างหนัก

อยากเห็นคนไทยเที่ยวไทยมากขึ้น มีสัดส่วนรายได้ท่องเที่ยว 50% จากขณะนี้มีสัดส่วนเพียง 30% ของรายได้ท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท หรือท่องเที่ยวของคนในประเทศมีมูลค่าเพียง 1 ล้านล้านบาท สถานการณ์ c๐vid คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดังนั้นสิ่งทีรัฐบาลต้องเร่งดำเนินการในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ทำอย่างไรให้คนไทยเที่ยวในประเทศมากขึ้น นายชัยรัตน์ กล่าว

และ ในสัปดาห์หน้าเตรียมนำมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศเสนอต่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนำไปหารือกับกระทรวงการคลัง โดย เริ่มต้นมาตรการในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้หรือตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป มาตรการเตรียวไว้ เช่น รัฐเข้าไปช่วยจ่ายส่วนลดที่พักและโรงแรม 50% นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอช้อปช่วยชาติ ลดหย่อนภาษีจากการท่องเที่ยว

ทั้งนี้คาดว่าไม่เกินกลางเดือนมิถุนายนนี้รูปแบบต่างๆ จะชัดเจนและนำเสนอไปยังครม. หลังจากนั้นนำเข้าคณะกรรมการกลั่นกรอง สศช.เพื่อขอใช้เงินจากพ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท ในส่วนของการฟื้นฟู 4 แสนล้านบาท เบื้องต้น กระทรวงเที่ยวฯ หารือสศช.กันวงเงิน 2 หมื่นล้านบาท มาช่วยท่องเที่ยว แต่ถ้าไม่เพียงพออาจจะขอเพิ่มเติมได้

ขอบคุณ : สทท.

0 comments:

Post a Comment