เอ็ม บุษราคัม อยากเข้าวงการไฮโซ



เอ็ม บุษราคัม อยากเข้าวงการไฮโซ

เอ็ม บุษราคัม ย้อนช่วงกลับจากเมืองนอก เหลิงว่าพ่อรวย อยากเข้าสังคมไฮโซ ออกเที่ยวทุกคืนใช้เงินเหมือนกระดาษ สุดท้ายต้อง โทร. บอกพ่อมีหนี้บัตรเครดิตเฉียดครึ่งล้าน จนกลายเป็นจุดเปลี่ยน



เป็นคู่พ่อ-ลูกที่นิสัยเหมือนกันมาก สำหรับคุณพ่อซุปตาร์ตลก หม่ำ จ๊กมก และลูกสาวคนสวย เอ็ม บุษราคัม แม้ปัจจุบันจะเติบโตมีครอบครัวของตัวเองแล้ว มีหลาน ๆ ที่น่ารักให้คุณตาหม่ำได้ชื่นใจ แต่ตลกดังก็ยอมรับว่ายังมองลูกสาวเหมือนเป็นเด็กอยู่เสมอ



ล่าสุดรายการ ตีสิบเดย์ เชิญคู่พ่อลูก หม่ำ – เอ็ม มาร่วมพูดคุยล้วงลึกครอบครัวตลกที่ไม่ตลกอย่างที่คิด ซึ่งหากย้อนวันวานไปเมื่อ 30 ปีกว่าที่แล้ว ทั้งคู่เคยมาออกรายการด้วยกันแล้วครึ่งหนึ่ง



เอ็ม บุษราคัม เล่าย้อนวีรกรรมสมัยเรียนมีมากมาย ตอนเรียนชั้น ม.5 เคยโดดเรียนไปดูหนังกับเพื่อน เพื่อนในห้องโดดเรียนกันหลายคน และมีครู โทร. ไปบอกที่บ้าน จากนั้นพ่อ โทร. มาด่าแบบระเบิดลงเลย ตอนเรากำลังดูหนังซึ้ง ๆ อยู่ กลับ้านไปพ่อลงโทษด้วยการสั่งให้คัดลายมือ การลงโทษของพ่อเหมือนเด็ก เอ็มอยู่ ม.5 แล้ว แต่พ่อยังใช้วิธีลงโทษวิธีเดียวกับน้อง เลยตัดสินใจเขียนจดหมายเล่าความในใจในมุมของเราบ้าง อยากให้พ่อเข้าใจเพราะพ่อก็เคยเป็นวัยรุ่น แต่กลับไม่ได้ผลเพราะพ่อไม่เข้าใจเหมือนเดิม



หม่ำ จ๊กมก กล่าวในมุมของตัวเองว่า ถ้ามีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง อีกอย่างเอ็มเป็นลูกผู้หญิง พ่อก็ต้องคิดสิว่าโดดเรียนไปไหน ไปกับใคร เพื่อนผู้หญิงหรือเพื่อนผู้ชาย



โดยเอ็มยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ไม่คุยกับพ่อเป็นเดือน ด้วยความที่มีนิสัยเหมือนกันคือ เวลาโกรธจะเงียบ ไม่พูด พอไม่พูดทั้งคู่ก็ไม่มีใครเริ่มก่อนสักที แม่พยายามเป็นกาวใจให้ จนแม่ก็ท้อเหมือนกัน



กระทั่งวันหนึ่ง มีรายการมาติดต่อให้พ่อไดรฟ์กอล์ฟสอนลูกสาว เหมือนพรหมลิขิตกำหนดว่าต้องกลับมาคุยกันได้แล้ว พ่อ-ลูกสวมวิญญาณนักแสดงคุยกันในรายการ จากนั้นเราก็เลยตามเลย คุยกันไปเลย และไม่พูดย้อนเรื่องนั้นขึ้นมาอีก เหมือนกลัวเสียฟอร์มทั้งคู่ ซึ่งหม่ำยอมรับว่า ความจริงอยากคุยกับลูก แต่ต้องทำใจแข็งไว้ “นี่พ่อนะเว้ย…



จากนั้น หม่ำ จ๊กมก เล่าช่วงเวลาที่เคยหนักใจเรื่องลูกสาวมาก ๆ เครียดมากจนนอนไม่หลับ เป็นช่วงที่เอ็มกลับมาจากเรียนเมืองนอก เอ็มเล่าต่อว่า ตอนกลับจากเมืองนอก เหลิงมาก รู้สึกเหลิงว่าพ่อเรารวย มีเงิน เราอยากมีเพื่อนไฮโซ อยากใช้ชีวิตในกลุ่มแบบนั้นบ้าง เราออกเที่ยวทุกวัน กลับบ้านเช้า นอนตื่นอีกทีก็เที่ยง เราพยายามเป็นสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็น



ตอนนั้นรูดใช้ซื้อของแบบไม่คิด ไม่มีเงินก็รูดกดเงินสดออกมา ตอนนั้นทำงานโรงลาบ เป็นร้านอาหารของพ่อ วันไหนบอกเพื่อนว่าไม่ไป วันนี้ไม่มีเงิน ไม่มีใครเชื่อเลย เขาจะพูดว่า เห้ย ! ลูกหม่ำไม่มีเงินได้ไง มาเหอะ ๆ ชีวิตวนลูปไปเรื่อย ๆ แบบนี้



ขณะที่ หม่ำ บอกว่าตอนนั้นพูดกับลูกสั้น ๆ เลยว่า วันหนึ่งที่เอ็มมีครอบครัว เอ็มจะนึกถึงเงินเหล่านี้ ซึ่งเอ็มยอมรับว่าจริง รู้สึกเสียดายเงิน ครั้งหนึ่งเคย โทร. ไปหาผู้จัดการพ่อ บอกว่ามีเรื่องด่วนจะคุยกับป๊ะป๋า ก่อนจะบอกพ่อว่า เอ็มติดหนี้บัตรเครดิต 4 แสนกว่าบาท พ่อช่วยจ่ายให้ก่อนได้ไหม แล้วเอ็มจะไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนี้อีกแล้ว



ตอนนั้นพ่อตอบกลับมาว่า “เออ ๆ เดี๋ยวโอนให้” แต่ก่อนจะวางสายพ่อพูดว่า “เดี๋ยวเรามีเรื่องต้องคุยกัน” เอ็มคิดว่าต้องโดนด่าแน่เลย เราเตรียมใจรอโดนด่ามาหลายครั้ง บางทีพ่อชวนไปไหนด้วย เราคิดว่าวันนี้ต้องโดดนด่าแน่ แต่สุดท้ายก็ไม่ด่า จนถึงตอนนี้ผ่านมาเป็นปีแล้วก็ยังไม่ด่า เอ็มอยู่แบบระแวงอยากให้พ่อด่าสักที จนบัดนี้ยังไม่ได้ยินคำด่านั้นเลย



อย่างไรก็ตาม หม่ำให้เหตุผลว่า เงิน 4 แสนบาท ไม่ใช่น้อย ๆ ตอนนั้นเอ็มอายุ 23-24 ปีแล้ว ถ้ายังคิดไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ที่ไม่ด่าเพราะเห็นแล้วว่าลูกสาวสำนึกผิดแล้ว

เอ็ม บุษราคัม อยากเข้าวงการไฮโซ

0 comments:

Post a Comment