กาแฟโบราณสูตรเข้มข้น หอมหวานอร่อย ชงเองง่ายๆ



กาแฟโบราณสูตรเข้มข้น หอมหวานอร่อย ชงเองง่ายๆ

เครื่องดื่มกาแฟโบราณ เป็นเครื่องดื่มที่ใครหลายๆคนชื่นชอบ เรียกได้ว่าต้องซื้อน้ำดื่มในทุกๆวันเลยก็ว่าได้ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเปลี่ยนจากซื้อมาเป็นชงดื่มเอง เพราะคุณสามารถชงเองได้เหมือนตามร้านที่ชื่นชอบได้เลย และในวันนี้เราได้มี 2 สูตรการชงกาแฟโบราณสูตรเข้มข้น และสูตรชงกาแฟเนสมาแจกให้กับเพื่อนๆได้ชงเองกันได้ง่ายๆ รสชาติที่ได้ออกมานั้นได้ความหอมหวาน เข้มข้น มีความกลมกล่อม ดื่มเป็นเครื่องดื่มเย็นหรือเป็นเครื่องดื่มร้อนอร่อยถูกใจกันอย่างแน่นอน เราอย่ารอช้าตามมาดูกันเลยว่าจะต้องเตรียมอะไร และมีวิธีการชงอย่างไร
กาแฟโบราณ

สำหรับเมนูกาแฟโบราณในสูตรนี้ เราจะใช้ผงโอเลี้ยงชงกับถุงชาแบบโบราณ รสชาติที่ได้ออกมานั้นจะได้ของความหอมของกลิ่นกาแฟและความเข้มข้น เติมน้ำตาลทราย นมข้นหวาน ใส่ได้ตามชอบ ราดนมข้นจืดด้านบนเพิ่มความมัน จะเสิร์ฟใส่แก้วหรือใส่ถุงก็อร่อยเหมือนกัน



ส่วนผสม กาแฟโบราณ (สำหรับ 2-3 เสิร์ฟ)

– ผงโอเลี้ยง 5-6 ช้อนโต๊ะ

– น้ำเปล่า 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย

– น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ

– นมข้นหวาน 9 ช้อนโต๊ะ

– นมข้นจืด


– น้ำแข็ง

วิธีทำกาแฟโบราณ
Loading...

เราจะเริ่มด้วยการต้มน้ำเปล่าจนเดือดเตรียมรอเอาไว้ ใส่ผงโอเลี้ยงลงในถุงกาแฟโบราณและนำไปวางลงในเหยือกสแตนเลสที่สามารถทนน้ำร้อนได้ จากนั้นเทน้ำเดือดใส่ลงไป ทำการเขย่าถุงเล็กน้อยให้น้ำร้อนโดนให้ทั่วผงโอเลี้ยง และพักเอาไว้เป็นเวลา 10 นาที ( หากใครที่ชอบความเข้มก็สามารถพักไว้นานกว่านั้นได้ )

ขั้นตอนการชงก ใส่น้ำตาลทรายลงในแก้ว ตามด้วยนมข้นหวาน เทน้ำโอเลี้ยงที่เราแช่ในน้ำร้อนใส่ตามลงไปคนให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลายจนหมด จากนั้นเทใส่ลงในแก้วที่มีน้ำแข็ง ราดด้านบนด้วยนมข้นจืดเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพร้อมเสริฟได้เลย


เนสกาแฟ


เครื่องดื่มเนสกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟจะต้องมีติด กันไว้ในทุกร้านกันเลยทีเดียว ผงเนสกาแฟชงเข้ากับน้ำร้อน เติมน้ำตาลทราย นมข้นหวาน เพิ่มความหอมหวานเพิ่มความอร่อยได้เป็นอย่างดี

ส่วนผสม เนสกาแฟเย็น

– ผงเนสกาแฟ 2 ช้อนชา

– น้ำร้อน 3/4 แก้ว

– นมข้นหวาน 4 ช้อนชา

– น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

– น้ำแข็ง 1 แก้ว



วิธีชงเนสกาแฟเย็น

ตักผงเนสกาแฟใส่ลงไปในแก้วตามด้วยน้ำตาลทราย เติมน้ำร้อนคนให้เข้ากันจนละลาย จากนั้นเติมนมข้นหวานลงไปคนให้เข้ากันและเทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง โรยนมสดด้านบนเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์ฟได้เลย

เรียบเรียง : postsod

ขอบคุณข้อมูลจาก : cooking.kapook
แสดงความคิดเห็น

0 comments:

Post a Comment