3 เรื่องที่พ่อแม่ต้องขี้เ กี ย จ ถ้าอย ากให้ลูกฉลาด พึ่งพาตัวเองได้



3 เรื่องที่พ่อแม่ต้องขี้เ กี ย จ ถ้าอย ากให้ลูกฉลาด พึ่งพาตัวเองได้


พ่อแม่อ ย่ างเราไม่มีใครไม่อย ากให้ลูกเก่ง ไม่มีใครไม่อย ากให้ลูกไม่ฉลาด และเติบโตมาพึ่งพาตัวเองได้หรอ ก แต่บางครั้งการเลี้ยงลูกแบบผิ ดหรือบางครั้งพ่อแม่อาจจะคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ตัวเองทำ อาจจะทำให้ลูก

ไม่รู้จักช่วยเหลือตัวเอง นั่นคือพ่อแม่มักจะคอยช่วยเหลือลูกอยู่ตลอ ด เพราะลูกยังเล็ก อาจจะทำไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นส่วนที่อาจทำให้ลูกเคยตัว ถ้าอย ากให้ลูกเก่ง ฉลาด ดูแลตัวเองได้ ลองอ่ า นบทความนี้ดูค่ะ


รู้ไหม ถ้าคุณแม่ลอง ขี้เ กี ย จ แล้วปล่อยให้ลูกเรียนรู้ที่จะเป็นอิสระ ช่วยเหลือตนเอง จะทำให้ลูกเป็นคนเก่ง วันนี้มีงานวิจัยของต่างชาติเผย 3 ข้อ ที่หากแม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยน้อยที่สุด จะส่งผลดีกับลูกเป็นอ ย่ างมาก


1. ขี้เ กี ย จบ่น ให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง

ในหล า ยครอบครัว คนเป็นพ่อเป็นแม่ มักจะตั้งความหวังไปที่ลูกมากจนเกินไป จนทำให้ลูกอึดอัดและกดดัน กล า ยเป็นไม่สนใจและไม่อย ากฟังสิ่งที่เราจะพูด แต่สำหรับครอบครัวนี้ เขากลับใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

ในการชวนลูกมาเล่นเกม และไม่ต้องทำการบ้าน โดยคุณแม่จะถามว่า ลูกกะจะเล่นเกมถึงกี่โมง ลูกตอบ ขอเล่นอีก 30 นาที แม่ตอบกลับไปว่า โอเค ต้องรั ก ษ าคำพูดนะ

เมื่อถึงเวลา 30 นาที แม่เดินกลับมาดู และยังเห็นลูกเล่นเกมอยู่ คุณแม่ก็รู้สึกไม่พอใจ แต่ยังสงบอารมณ์ได้ และพูดกับลูกอ ย่ างใจเย็นว่า ปกติลูกเป็นคนรั ก ษ าคำพูดไม่ใช่เหรอ เมื่อลูกได้ฟังคำพูดของแม่

ก็เริ่มรู้สึดผิ ดต่อสิ่งที่ทำ จึงเดินไปปิดสวิตช์ และรีบไปทำการบ้านทันที นี่เป็นสาเหตุมาจาก การเป็นคนน่าเชื่อถือ ของคุณแม่ท่านนี้ เพราะเวลาคุณแม่รับปากอะไรกับลูกไว้



เธอก็จะทำต ามนั้นได้เป๊ะ ๆ ไม่เคยผิ ดคำพูดกับลูก เช่น จะพาลูกไปเที่ยว จะซื้อของเล่นให้ เธอก็ทำต ามคำพูดได้ทุกครั้ง มันแสดงให้เห็นว่า คุณแม่ท่านนี้เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการรั ก ษ าคำพูดเป็นอ ย่ างมาก


เมื่อรับปากอะไรไว้ ก็ต้องทำให้ได้ และสอนลูกให้รู้จักรับผิ ดชอบต่อคำพูดของตัวเอง แล้วคำพูดก็เลยดูศักดิ์สิทธิ์ ผลปรากฎว่า พ่อแม่ที่ไม่บ่นเรื่อนเปื่อย แต่ใช้วิธีปลูกฝังจิตสำนึกให้ลูกแทน

ใช้เหตุผลในการคุยกับลูกมากกว่าอารมณ์ สอนให้ลูกรู้จักรั ก ษ าคำพูดของตัวเอง และทำต ามที่พูดไว้อ ย่ างเคร่งครัด ทำให้ลูกให้ความสำคัญกับคำพูดมาก โดยที่เราไม่ต้องไปบ่นให้เขามากมาย เขาสามารถสำนึกและคิดได้เอง ถ้าอย ากให้ลูกช่วยเหลือตัวเองเป็น ให้ลูกได้ลองลงมือปฎิบัติ

ถ้าอย ากให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็น ให้ฝึกถามเพื่อให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็น ถ้าอย ากให้ลูกมีวินัย พ่อแม่ต้องรู้จักรั ก ษ าคำพูด ถ้าอย ากให้ลูกพูดเพราะหรือมีมารย าท ต้องทำให้ลูกเห็นทุกวัน


Loading...

2. ขี้เ กี ย จขยับมือ สอนให้ลูกรู้จักพึ่งพาตนเอง

พ่อแม่ต้องขี้เ กี ย จต ามเก็บกวาดให้ลูกทุกอ ย่ าง ควรปล่อยให้เขารู้จักพึ่งพาตัวเองบ้าง บางสิ่งที่ลูกสามารถทำเองได้ ไม่จำเป็นต้องยื่น มือเข้าไปช่วยทุกครั้งไป เช่น ห้องนอนลูกที่ดูไม่เป็นระเบียบ แค่เตือนให้เขารู้ตัวว่าต้องทำ แต่ไม่ต้องไปทำให้ลูก เราควรจะเน้นไปที่การสอนให้ลูกดูแลความสะอาด บริเวณพื้นที่ส่วนรวมของบ้าน เช่น ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาหาร และเมื่อลูกเห็นว่า

พื้นที่อื่นในบ้านสะอาด เขาจะรู้สึกว่า เขาต้องทำความสะอาดห้องนอนตัวเองให้สะอาดเหมือนกัน ผลปรากฎว่า เมื่อพ่อแม่ขี้เ กี ย จช่วยเหลือลูกในบางเรื่อง ส่งผลให้ลูกฝึกทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองมากขึ้น และเป็นการฝึกนิสัยพึ่งพาตัวเอง มีความรับผิ ดชอบต่อสิ่งรอบตัว และจะทำให้ลูกมีความรับผิ ดชอบต่อตัวเองมากขึ้น เมื่อเขาโตไปจะกล า ยเป็นคนที่สามารถรับผิ ดชอบได้ดี รู้จักหน้าที่ของตัวเอง



3. ขี้เ กี ย จช่วยลูกทำการบ้าน

คุณแม่ท่านหนึ่งได้เล่าประสบการณ์ของตัวเองว่า เธอไม่เคยสอนหรือช่วยทำการบ้านให้ลูกของเธอเลย แม่จะบอ กลูกแค่ว่า ให้ทำการบ้านเวลาไหน ควรทำเวลาไหน แล้วก็ไล่ให้ลูกไปทำ พอทำเสร็จก็ค่อยบอ กแม่ และเธอก็จะไม่ตรวจสอบว่าลูกทำถูกต้องหรือไม่ เพราะการตรวจสอบนั้น มันเป็นหน้าที่ของลูก หรือให้รู้ว่าถูกผิ ดจากที่โรงเรียน คุณแม่แค่เซ็นชื่อให้เท่านั้นเอง


ช่วงแรก ๆ ลูกของเธอก็แสดงอาการไม่พอใจ และพูดว่า ทำไมแม่ถึงขี้เ กี ย จแบบนี้ แม่คนอื่นเขาช่วยตรวจการบ้านให้ลูกกันทั้งนั้น เธอจึงตอบลูกไปว่า ที่แม่ไม่ตรวจการบ้านลูก ไม่ใช่เพราะแม่ขี้เ กี ย จหรอ กนะ



แต่ลูกลองคิดดูสิ ถ้าแม่ตรวจให้ แล้วลูกจะรู้ได้ไงว่าตัวเองทำผิ ดตรงไหน แล้วตอนสอบเวลาลูกทำผิ ด จะรู้ไหมว่าผิ ดตรงไหน ลูกต้องฝึกตรวจความถูกต้องด้วยตัวเอง เรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะในห้องสอบไม่มีใครช่วยลูกได้ จำไว้นะลูก ตอนลูกอยู่ในโรงเรียน ลูกจะได้รับบทเรียนก่อน แล้วถึงได้ทำข้อสอบ แต่สำหรับในโลกความจริง ลูกจะต้องเจอบททดสอบก่อน ถึงจะได้บทเรียน

การที่เธอขี้เ กี ย จสอนการบ้าน หรือช่วยลูกทำการบ้าน ทำให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเองได้มากที่สุด ลูกจะได้รู้จักพึ่งพาตัวเอง ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเสมอ หากคิดไม่ออ กหรือทำไม่ได้ ค่อยมาขอคำแนะนำจากแม่ได้

ผลปรากฎว่า สำหรับพ่อแม่ที่มีนิสัยขี้เ กี ย จตีกรอบความคิดให้ลูก แต่ปล่อยให้ลูกคิดเองอ ย่ างอิสระ หรือทำทุกอ ย่ างด้วยการตัดสินใจของตัวเองได้อ ย่ างอิสระ แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังให้ความสนใจลูกและคอยดูอยู่ห่าง ๆ จะทำให้ลูสามารถเผชิญกับปัญหาได้ดี เขาจะมีภูมิคุ้มกัน มีปีกที่แข็งแรงพอ และอยู่ได้ด้วยตัวเอง แม้วันหนึ่งคุณจะไม่ได้อยู่ปกป้องเขาแล้วก็ต าม

ที่มา aansanook

0 comments:

Post a Comment