เหตุผล 6 ข้อ ว่าทำไมคนประเทศเราเชื้อสายจีน ส่วนใหญ่จึงรวย



เหตุผล 6 ข้อ ว่าทำไมคนประเทศเราเชื้อสายจีน ส่วนใหญ่จึงรวย

1 เมื่อคิดจะมีหนี้ เขาจะคำนวณตัวเลขให้ละเอียดรอบคอบ

จะยังไงก็ตามถ้าคนจีนจำเป็นที่จะต้องก่อหนี้ เช่น ซื้อบ้าน หรือลงทุนในกิจการส่วนตัว

เขาจะคิดเลขอย่างละเอียดรอบคอบเสมอ

เช่น คำนวณสัดส่วนรายได้ทั้งครอบครัวต่อหนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะว่าเขาไม่อย ากเสี ยเงิน


ซึ่งรางวัลของความละเอียดนั้น ทำให้ก่อนกู้เงิน เขามักจะได้ อัตราด อกเบี้ยที่ดีคุ้ม

ทั้งยังไม่พลาดการชำระหนี้อีก ด้วย นั่นเพราะเขากลัวด อกเบี้ยจะบาน

2 ขยันศึกษาเล่ าเรียนให้เก่ง

จะพูดง่าย ๆ คือเมื่อคิด อย ากจะรวย ก็ต้องสร้างรายได้เพิ่มให้เร็ว


จากความเป็นมืออาชีพในหน้าที่การงานของตัวเองที่ทำอยู่

ซึ่งจากแนวคิดนี้นั้น คนจีนจึงมักที่จะขยันหมั่นเพียร ในเรื่องการเรียนและมักจะโดดเด่น

ในด้านหน้าที่การงาน ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม

3 เพราะจ่ายแบบเน้นคุณค่า

เขาจะเน้นใช้จ่ายในสิ่งที่คุ้มกับเงินที่จะเสี ยไป
Loading...

โดยวิธีการนี้ เป็นการแตะเบรกทุกครั้งก่อนใช้เงิน

และสุดท้ายแล้วแนวคิดนี้ จะกลายเป็นวินัยติดตัวไปเองไปนาน


จะดีในเรื่องการตัดสินใจหลาย ๆ อย่างในอนาคตมาก

4 ออมเงินได้เก่ง

กับข้อนี้ก็คงต้องไม่ลืม ไวในการเก็บด้วย เพื่อเสริมสร้างความรวยให้กับครอบครัวจัวเอง

โดยเฉลี่ยคนจีนจะออมเงิน ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์

ของเงินเดือน บางครั้งอาจจะถึงครึ่งหนึ่งของเงินเดือนก็เป็นได้

เพื่อกันเอ าไว้ใช้ในย ามจำเป็น เพื่อเตรียมที่จะเอ าไปซื้ออะไรเป็นพิเศษไงล่ะ

5 เน้นจ่ายด้วยเงินสดเสมอ


อันที่จริง เงินสดในที่นี้คือเงินที่อยู่ในบัญชี ไม่ก็เงินออมสะสม

โดยส่วนใหญ่คนจีนจะใช้เงินที่เก็บไว้นี้ในการใช้จ่าย

พูดง่าย ๆ คือ มีแค่ไหนก็จ่ายเท่านั้นแหละ

ผ่ านทางเดบิตการ์ดหรืออีวอลเล็ต โดยไม่นิยมใช้เงินในอนาคต

จากบัตรเครดิตมาจ่ายก่อน เพราะประโยชน์ที่ได้คือ ช่วยให้ไม่ก่อหนี้จนคุมไม่อยู่

แล้วยังสามา รถติดตามงบในบัญชีได้ อย่างแม่นยำด้วยน่ะสิ

6 พูดคุยเกี่ยวกับการจับจ่ายอยู่เป็นประจำ

ยึดแนวทางที่ว่า ยิ่งรู้ว่าสถานการณ์ การเงินบ้านตัวเองเป็นยังไง ก็จะยิ่งไวในการหาทางจัดการ

เพราะงั้นครอบครัวชาวจีนนั้นจะเรียกคุยกันบ่อย ๆ ว่าปัจจุบันมีการใช้จ่ายเกินตัวหรือไม่อย่างไร

เพื่อเตรียมแผนป้องกัน ทั้งยังช่วยกันตัดสินใจเรื่องการเงินบางอย่างในอนาคตให้เฉียบคมขึ้น

ขอขอบคุณแหล่งที่มา aansanook

0 comments:

Post a Comment